วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 19 มิถุนายน 2558



          วันนี้เป็นสุดท้ายของสัปดาห์ หลังจากทุกกิจกรรมผ่านไปด้วยดี ฉันก็พาเด็กๆออกไปเล่นในสนามเด็กเล่น ฉันปล่อยให้เด็กๆมีอิสระในการเลือกของเล่น  แต่ได้พักเดียวก็มีอุบัติเหตุกับเด็กตรงของเล่นสะพานลื่น ฉันเดินไปตรงนั้นพอดีแต่คว้าไม่ทันเพราะเขาเล่นไม่ถูกวิธีแทนที่จะเเอาขาลงแบบตรงๆเขากลับเอาข้างลงเลยกลายเป็นว่าพอกมุนตัวหนัาเลยไปกระแทกกับเหล็ก ผลปรากฎหัวโน ฉันพามาปฐมที่ห้องและให้นอน ฉันกลับไปดูคนอื่นๆและเรียกมาสอนวิธีการเล่นให้เด็กๆเข้าใจ เขาเล่นได้ดีขึ้นและถูกต้องโดยมีฉันยืนดูแลอยู่ข้างๆของเล่น

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที 22 มิถุนายน 2558


          วันจันทร์นี้ฉันมารับเด็กนักเรียนแต่เช้า สังเกตุผู้ปกครองบางคนหิ้วกระเป๋าและที่นอนให้กลับเด็กและจะเดินเข้ามาเก็บให้ในห้อง ฉันเลยบอกกะผู้ปกครองว่า ขอร้องให้ผู้ปกครองส่งเด็กแค่หน้าห้องและปล่อยให้เด็กๆ หยิบกระเป๋าและที่นอนไปเก็บเอง เพราะตอนเที่ยงเขามักจะมาถามว่า "ที่นอนหนูอยู่ไหน" ฉันเลยบอกขอความร่วมมือกับผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กได้เก็บเองตอนเที่ยงจะได้หยิบมาปูถูก ผู้ปกครองก็ให้ความร่วมมือดีมาก  ฉันอธิบายว่าฉันทำให้ก็ได้แต่ฉันต้องการปรับเขาเพื่อให้ เด็กๆได้ช่วยเหลือตัวเองได้ เด็กๆเขาอาจจะบอกสีไม่ถูกแต่เขาจำได้ว่าที่นอนอยู่ตรงไหนและสีแบบไหน ตอนเที่ยงฉันเลยให้เด็กๆหยิบเองได้ผลดีมากเขาหยิบถูกทุกคน มีบางคนหยิบสีถูกแต่ไม่ใช่ของเขา แต่ฉันก็ดีใจว่าอย่างน้อยเด็กๆก็จำสีได้

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 18 มิถุนายน 2558



          วันนี้ทางโรงเรียนบ้านตาเหล็ง จัดให้มีกิจกรรมไหว้ครู ทางศูนย์ฉันก็มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมนี้เพราะศูนย์ที่ฉันสอนเป็นศูนย็ที่อยู่ในโรงเรียน

          เด็กๆตื่นเต้นมากที่จะได้ไปร่วมกิจกรรมกับพี่ๆที่หอประชุม เด็กๆเอาดอกไม้ที่จะมาไหว้ครูฝากกับฉันไว้ก่อนเพือจะไดัไมีพัง หลังจากทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จ เด็กๆทุกคนมารอรับดอกไม้ที่ฝาก ที่จริงฉันเขียนชื่อไว้แต่ต้องการทดสอบความจำเด็กๆ เขาเก่งมากจำได้ของเขาได้ เขาถึงว่าเด็กวัยนี้เป็นวัยทองเขาเก่งจดจำได้ง่ายและถ้าเราใส่อะไรดีๆไปเขาก็จะเก่ง

         เด็กทุกคนเดินไปนั่งตามจุดที่คุณครูบอก ตัวแทนทำหน้าที่ขึ้นไปไหว้ผู้อำนวยการและอาจารย์อาวุโสบนเวที ตัวแทนเด็กก็น่ารักทำได้ดี ทุกปีที่มีกิจกรรมนี้ฉันภูมิใจมากและมีความสุขที่ได้เห็นดวงตาและหน้าใสๆเหล่านี้เขามีความสุข








วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 17 มิถุนายน 2558



     ช่วงนี้เด็กๆดีขึ้นมาก ปฎิบัติตามคำสั่งได้ และเด็กๆก็ชอบกิจกรรมเคลื่อนไหวมากๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย เขาสนุกมากกับการที่จะได้เต้นตามจังหวะ และอีกอย่างคือเเด็กๆชอบฟังนิทาน ฉันจะเล่านิทานแทนการสอน เพราะต้องการให้เด็กมีสมาธิในการอยู่นิ่งๆ และฟัง ดีขึ้นมากเขาชอบฟังและจะดูภาพนิทานจากฉัน ฉันจะเล่าแบบตามเหตุการณ์แต่มีเค้าโครงตามหนังสือนิทาน เพื่อสอดแทรกการแนะนำและสอนไปด้วย เช่นเรื่อง อุ้งอิ้งไม่อยากไปโรงเรียน ฉันก็จะเอาตัวละครคือเด็กๆในห้องและแสดงท่าทางประกอบ เด็กก็จะขำและหัวเราะในสิ่งที่ฉันเล่า

     ฉันเห็นเด็กๆมีความสุขและสนิทกับฉัน ฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย ต่อจากนั้นเด็กๆก็จะพูดคุยกะฉันมากขึ้นและทำให้การสอนหรือสั่งเรื่องอื่นๆง่ายขึ้น

                 

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 16 มิถุนายน 2558



     วันนี้ผู้ปกครองมาหาแต่เช้า มาบ่นกับฉันว่า เมื่อวานหลานชายถูกเพื่อนแย่งขนมจนไม่ได้กิน ฝากคุณครูช่วยดูด้วยนะค่ะ  ฉันรับฟังและบอกกับผู้ปกครองไปว่า คุณครูก็ดูแลอยู่แต่ตอนพักเที่ยงเราอยู่กับโรงเรียนเราก็พักพร้อมกับเด็กอนุบาลของโรงเรียน ซึ่งอนุบาล 1 และอนุบาล 2 และก็คงมีบ้างที่พี่ๆเขาโตกว่าเขาก็อาจจะมีขอหรือแย่ง

     ฉันบอกกับผู้ปกครองว่า "คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องไม่ได้กินนะค่ะ ทางศูนย์มัทั้งข้าว ของว่างและนมให้ทาน และบางครั้งคุณยายต้องเข้าใจนะค่ะว่าเด็กมาอยู่กับคนหมู่มากก็ต้องฝึกให้เขาปรับตัวกับปัญหาต่างๆบ้าง และต้องฝึกการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น แต่เป็นเอาว่าคุณครูจะดูแลระมัดระวังเพิ่มเติมอีกเพืีอความสบายใจของคุณยาย

    เที่ยงนั้นฉันก็เลยแก้ปัญหาด้วยการพาเด็กๆไปเองและรีบพากลับมาที่ห้อง

                            ❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️


วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 15 มิถุนายน 2558


     วันนี้มาทำงานและรับเด็กในตอนเช้า ปัญหาเดิมๆ เด็กร้อง ไม่ฟังคำสั่ง ทะเลาะกัน แย่งของของเล่นกันก็ยังคงมีอยู่บ้างแต่ก็ดีขึ้นเพราะฉันกับเพื่อนก็ช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด พยายามบอกและสอน

     แต่ปัญหากลับเป็นเพื่อนครูข้างห้องซึ่งเป็นเด็กอนุบาล 2 ซึ่งเป็นส่วนของโรงเรียนมีครูประจำชั้นเพียงท่านเดียว มีเด็กย้ายมาใหม่จากจังหวัดชลบุรี เด็กใหม่คนนี้ตอนย้ายมาผู้ปกครองแจ้งว่าเรียนชั้นอนุบาล 2 มาแล้ว ท่านรองผอ. เลยให้ไปเรียนชั้น ป.1 เด็กไม่ยอมเรียนร้องไห้ตลอด ไม่รู้เรื่องจนคุณครูประจำชั้นไปปรึกษาท่านผอ. ท่านผอ.เลยเชิญผู้ปกครองเด็กคนนั้นมาคุยจนได้ความว่า เดิมเด็กเรียนอยู่โรงเรียนเอกชนซึ่งเรียนชั้นอนุบาล 2 แล้ว และต้องขึ้นอนุบาล 3 แต่ผู้ปกครองเข้าใจว่าต้องมาเรียนป.1 เพราะโรงเรียนนี้เขามีแค่อนุบาล 2 ถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงชั้นเรียนทันที ให้มาเรียนชั้นอนุบาล 2 ของโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ฉันเลยอธิบายต่อให้ผู้ปกครองเด็กฟังตอนที่เขาเอาเด็กมาเรียนห้องใหม่ว่า อ๋อ คุณยายที่เอกชั้นเขาจะเรียนเด็กอนุบาล 3 ขวบที่ครูสอนว่าชั้นอนุบาล 1 เขาถึงมีอนุบาล 3 แต่ส่วนที่นี้เขามีอนุบาล 3 ขวบและอนุบาล 1 แล้วอนุบาล 2

    นี่แหละปัญหาของการไม่อธิบายหรือสอบถามกันให้ดีเลยกลายเป็นว่า เข้าใจผิด ทำให้เด็กไม่อยากมาโรงเรียน  เด็กร้องไห้มากฉันได้มีโอกาสช่วยด้วยการปลอบโยน กอด และชักชวนพูดคุยจยเด็กดีขึ้นยอมคุยด้วยและยอมสงบในที่สุด ฉันก้มบอกเขาว่า " บอลครับ พรุ่งนี้หนูอย่าร้องไห้อีกนะ เพราะมาเรียนสนุกมีทั้งของกิน มีของเล่นและมีเพื่อนๆ คุณครูก็ใจดี" เขายิ้มแล้วพยักหน้า

                                      🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺🌺

             

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 12 มิถุนายน 2558


     วันนี้เป็นวันศุกร์ที่เด็กๆต้องมาเรียนหลังจากเมื่อวานหยุดเรียน ดูเด็กๆบางคนก็งอแงไม่อยากมาเรียนแต่ฉันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆจะมีงอแงบ้างแต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เด็กซะแล้วแต่อยู่ที่ตัวฉัน

     ฉันป่วย เป็นไข้หวัด เจ็บคอ และก็กินยาเข้าไปมึนๆบ้าง ปกติฉันชอบที่จะอยู่กับเด็กๆเหนื่อยแต่ก็สนุกแต่วันนี้รู้สึกว่าแย่มากๆ จนมีความคิดว่าเวลาช่างนานมาก อยากจบวันเร็วๆ

     บ่าย2 ไฟฟ้าดับอีกเด็กๆก็พากันตื่นเพราะร้อน ฉันสงสารเด็กเลยจับเด็กอาบน้ำแก้ร้อน สนุกสนานกันทั้งครูทั้งเด็ก

                                             🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2558


     ศูนย์พัฒนาเด็กของฉันเป็นศูนย์ที่มาขอให้อาคารของโรงเรียนบ้านตาเหล็ง เป็นห้องเรียนเล็กๆ มีนักเรียนอยู่ 34 คนปีนี้ มีครู 2 คน

    ท่านผอ. เดินมาแจ้งว่าทางโรงเรียนจะใช้สถานที่สอบทักษะฉะนั้นเลยแจ้งให้นักเรียนอนุบาลทั้งหมดหยุดเรียนรวมทั้งอนุบาล 3 ขวบด้วย
     สรุปศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้องหยุดทำการเรียนการสอน 1 วัน คือ วันที่ 11 มิถุนายน 2558
 

                             ❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️🌹🌹🌹🌹🌹🌹

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 10 มิถุนายน 2558


     จากปัญหาวันที่ 9 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเด็กชายคเนศ ริ้วกระโทก ตอนเช้าฉันได้พบคุณยายที่เป็นผู้ปกครองของ เด็กชายคเนศ และได้สอบถามเกี่ยวกับคเนศ ว่ามีการเลี้ยงดูยังงั้ยและะฤติกรราที่อยู่บ้านเป็นอย่างไร คุณยายเล่าว่า เด็กชายคเนศมีปัญหาตั้งแต่ยังเด็กป่วยบ่อย และตอนนี้ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาแต่ซน ตีกันอยู่เรื่อย คุณยายว่าเห็นใจคุณครู และคุณยายว่าลองเอามาเรียนรู้ว่าจะอยู่กะกับคนอื่นแล้วจะดีขึ้นมั้ย ฉันถามคุณยายว่าคุณยายตามใจเขามากหรือเปล่าค่ะเพราะเวลาเขาอยากได้อะไรจากใครเขาต้องได้และจะแย่งถ้าไม่ได้ก็จะทำร้ายเพื่อนแบบแรงๆ คุณยายว่าอยู่ที่บ้านฉันก็ตีและสอนตลอด  ฉัยบอกกะคุณยายไปว่าเด่วคุณครูจะลองปรับเขาดูอีกทีนะค่ะ

     วันนี้ทั้งวันฉันพยายามอยู่ใกล้ๆเด็กชายคเนศ และถ้ามีการแย่งออกฉันก็จัคอยห้ามและพูดกับเขา แต่ก็ได้ผลอยู่บ้างตอนที่ฉันนั่งอยู่ใกล้ แต่พอฉันเดินไปทำอย่างอื่นเขาก็เหมือนเดิมแต่ฉันก็คิดว่าจะลองทำบ่อยๆ คือพูดคุยด้วย และคิดว่าเวลาจะช่วยให้ดีขึ้น

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บันทึกสะท้อนคิดวันอังคารที่ 9 มิถุยนยน 2558


     เช้าวันอังคารฉันก็มารับเด็กแต่เช้าตามปกติ วันนี้ก็ยังมีเด็กร้องบ้างแต่ก็ไม่นานพอทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียนเสร็จก็พาเข้าห้องและทำกิจกรรมตามปกติ  ฉันสังเกตุมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อ คเนศ ริ้วกะโทก ตั้งแต่มาเรียนเขาไม่ร้องไห้เลย แต่จะไม่ฟังคำสั่งครูเช่นกัน อย่างอื่นยังพอเข้าใจว่าเด็กพึ่งมาอาจจะฟังคำสั่งไม่เป็นฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรและปล่อย

     ช่วงปล่อยให้เล่น เด็กชายคเนศจะมีปัญหามากคือ มักจะตีเพื่อนตลอดสาเหตุการตีส่วนใหญ่คือแย่งของเล่นกับเพื่อน และถ้าไม่ได้เขาจะลงมือทำร้ายเพื่อนทันที ฉันและเพื่อนครูด้วยกันก็พยายามบอกว่าอย่าตีเพื่อนแต่ก็ไม่ค่อยได้ผล คราวนี้เขาตีเพื่อนหนักคุณครูอีกท่านจึงทำโทษด้วยการตีมือ เด็กชายคเนศ เขาโกรธคุณครูเขากัดของเล่นและตีเพื่อนที่อยู่ข้างๆอีก จนฉันเริ่มคิดว่าเด็กเป็นเด็กพิเศษเปล่านะ

     พอดีท่านรอง เกศวรรณ พลเดช รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ท่านเดินมาเยี่ยมชมเด็กๆ ฉันจึงได้สอบถามเพราะท่านพึ่งไปอบรมเกี่ยวกับเรื่องเด็กพิเศษ ท่านว่าให้เราสังเกตุและไปเอาแบบประเมินเด็กมาจากท่านและลองสังเกตุดู และท่านแนะนำว่าเด็กพิเศษบางคนเราจะมีอารมณ์รุ่นแรง วิธีที่จะปรับเขาคือเขารุ่นแรงมาเราก็รุ่นแรงตอบ ค้อฟันต่อฟันตาต่อตา ตอนแรกฉันฟังแล้วตกใจ และคิดว่าเป็นไปได้งั้ย ท่านอธิบายว่า หมายถึงเวลาเขาตีเรา เราก็ตีเขากลับและถามเขาว่าเจ็บไหมเวลาที่คุณครูตี ถ้าเขาบอกว่าเจ็บเราก็สอนเขาและห้ามเขาตีคนอื่น ท่านอธิบายว่าเราต้องปรับเขาตั้งแต่เล็กๆ

     นี่คือความรู้ใหม่ที่ฉันได้จากปัญหาที่เจอและขอบคุณท่านรอง เกศวรรณ พลเดชที่นำความรู้จากการไปอบรมการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กพิเศษมาแนะนำ

บันทึกสะท้อนคิดประจำวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558

     วันนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งเด็กๆจะต้องมาเรียนอีกครั้งและแน่นอน เด็กๆมักจะร้องไห้งอแง และนี่ก็คือปัญหาที่ฉันเจอในวันนี้  และที่หนักกว่าเด็กร้องคือผู้ปกครองไม่ยอมปล่อยเด็ก  ยังคงมาเฝ้าทำให้คุณครูจะปรับเด็กยากมาก หน้าที่ของฉันในฐานนะครูก็พยามอธิบายให้ผู้ปกครองสบายใจและให้ความร่วมมือกับคุณครูและเชื่อใจว่าคุณครูจะดูแลเด็กๆทุกคนเป็นอย่างดี ไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลอะไร ขอให้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณครู ถ้าผู้ปกครองไม่ใจแข็งปล่อยให้อยู่กะคุณครู เด็กๆก็จะไม่มีการปรับตัวเข้ากับครูและเพื่อนๆ ผู้ปกครองก็น่ารักเข้าใจและยอมทำตามคำแนะนำของคุณครูเป็นอย่างดี